จะเกิดอะไรถ้าไม่ถ่ายทุกวัน

การขับถ่ายจำเป็นต้องเป็นกิจวัตรประจำวันของทุกคน ยิ่งทำสม่ำเสมอ ทำเวลาเดิมได้เท่าไหร่ยิ่งดี เพราะการขับถ่ายมีผลอย่างมากต่อสุขภาพโดยรวม 

ในทางตรงกันข้าม การที่เราไม่ขับถ่ายอย่างสม่ำเสมอกลับสร้างผลร้ายที่มากเกินกว่าที่เราจะคาดคิด เพราะเพียงแค่การสะสมของเสียในร่างกายในปริมาณเพียงน้อยนิดทุกวัน กลับทำให้อวัยวะอื่นๆทั่วทั้งร่างกายแปรปรวนไปทั้งหมด ซึ่งปัญหาจะร้ายแรงมากมายแค่ไหน ตามมาดูกันเลยค่ะ

    ปัญหาสุขภาพร่างกายของการไม่ขับถ่ายเป็นประจำมีดังต่อไปนี้

    1. ท้องผูกสะสม

     อาการท้องผูกเป็นปัญหาหนักอกของคนถ่ายยาก เพราะไม่ว่าจะกินอะไรเข้าไป ปริมาณมากน้อยขนาดไหน ก็ยังไม่สามารถขับถ่ายอย่างปกติได้ ซึ่งยิ่งคุณไม่ขับถ่ายตรงเวลาเนิ่นนานมากเท่าไหร่ ปัญหาที่มีก็จะสะสมทบต้นทบดอกมากไปเท่านั้น

เพราะเมื่อเราไม่ยอมถ่ายอุจจาระให้เป็นกิจวัตรทุกวัน ก็เปรียบเสมือนการปล่อยให้อุจจาระตกค้างอยู่ภายในลำไส้ การที่มีของเสียค้างอยู่ในลำไส้แบบนี้ ร่างกายจะดูดน้ำในอุจจาระกลับมาใช้ในร่างกายอีกครั้ง ซึ่งจะยิ่งส่งผลให้อุจจาระแข็งตัวมากยิ่งขึ้นๆ และถ่ายลำบากมากขึ้นไปอีก จนในที่สุดก็จะกลายเป็นอาการท้องผูกแบบแก้ไม่หาย

    2. เชื้อโรคแพร่กระจายทั่วร่างกาย

ปัญหาท้องผูกว่าหนักแล้ว แต่ก็ยังมีปัญหาที่หนักมากกว่า ในที่นี้ก็คือ การที่เชื้อโรคจะแพร่กระจายในร่างกายของเรามากขึ้น เพราะน้ำที่อยู่ในอุจจาระจะถูกดูดกลับไปใช้ในร่างกาย ซึ่งน้ำที่ถูกดูดกลับไปล้วนแล้วแต่มีบรรดาเชื้อโรคต่าง ๆ ที่เจริญเติบโตขึ้นภายในอุจจาระ

ซึ่งเชื้อโรคจะถูกดูดซึมกลับเข้าสู่กระแสเลือด ก่อให้เกิดอาการอักเสบภายในร่างกาย ส่วนระบบภูมิคุ้มกันร่างกายก็จำเป็นจะต้องทำงานหนักมากขึ้น เพื่อต้อต้านการอักเสบครั้งนี้

หากร่างกายต้านไม่ไหว เชื้อโรคก็จะโจมตีทำให้ร่างกายของคุณอ่อนเพลีย ปวดหัว ท้องอืด ผิวหนังอักเสบ เป็นสิว อารมณ์ไม่ดีหรือหงุดหงิดง่าย

3. สารพิษสะสม

ในหนึ่งวันนอกจากเราจะได้รับสารอาหารจากอาหารจานต่างๆแล้ว ยังอาจจะมีสารพิษปนเปื้อนมากับสารอาหารต่างๆได้ด้วย ซึ่งนอกจากจะจะได้ประโยชน์จากอาหารแล้ว เราจึงได้โทษบางประการไปด้วย ทั้งนี้ การขับถ่ายถือเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดที่ร่างกายจะกำจัดสารพิษและสารเคมีต่าง ๆ ออกไปได้ เพราะฉะนั้น หากเราไม่ได้ขับถ่ายทุกวัน จึงมีผลให้สารพิษเหล่านั้นถูกดูดกลับไปสะสมอยู่ในร่างกายนั่นเอง โดยเฉพาะในตับหรือลำไส้ใหญ่จะต้องรับบทในการเก็บสะสมสารพิษหนักมาก

    4. กลิ่นปากและกลิ่นตัวแรง

    จากที่กล่าวมาแล้วว่าการที่ไม่ได้ขับถ่ายเป็นเวลาทุกวันจะทำให้ร่างกายเกิดการสะสมเป็นของเสียในร่างกาย ซึ่งถ้าหากของเสียไม่สามารถขับออกในรูปอุจจาระได้ ก็ต้องขับออกมาในรูปของกลิ่นแทน

กลิ่นที่เกิดขึ้นเมื่อไม่ได้ระบายออกทางอุจจาระก็จะมาออกทางกลิ่นปากและกลิ่นกาย เพราะการที่เราไม่ขับถ่ายเป็นประจำ เชื้อโรคจะถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดแล้ว ทำให้เลือดไม่สะอาด เมื่อผ่านไปยังปอด ปอดก็จะฟอกเลือดและขับเชื้อโรคเหล่านี้ออกมาทางลมหายใจและผิวหนังกลายเป็นกลิ่นเหม็น ๆ ที่ใครก็ไม่ชอบแม้แต่ตัวคุณเองก็ตาม

    5. โรคผนังลำไส้อักเสบ

การที่เราไม่สามารถขับถ่ายสม่ำเสมออุจจาระได้อย่างสม่ำเสมอ จะทำให้เกิดการสะสมของอุจจาระในลำไส้ ซึ่งการหมักหมมนานๆจะทำให้ผนังลำไส้ในส่วนที่อ่อนแอเกิดการโป่งพองเนื่องจากต้องรับน้ำหนักของอุจจาระที่แข็งตัวขึ้น และเมื่อถุงที่โป่งพองในลำไส้เหล่านี้มีเชื้อโรคไปสะสมก็อาจจะเสี่ยงต่อการติดเชื้อกลายเป็นโรคผนังลำไส้ใหญ่อักเสบตามมาได้

มากไปกว่านั้น อาจเกิดอาการข้างเคียงเช่น เลือดออกในลำไส้ เป็นหนอง ผนังลำไส้ทะลุ หรือลำไส้อุดตันได้

จากที่กล่าวมาทั้งหมดจะเห็นได้ว่าการไม่ขับถ่ายอุจจาระทุกวันเป็นสิ่งที่ไม่น่าพึงกระทำเลยแม้แต่น้อย เพราะมันได้ส่งผลต่อร่างกายของเราอย่างน่ากลัวและรุนแรง ซึ่งอาการจะรุนแรงมากขึ้นเมื่อเราปล่อยให้ปัญหาคาราคาซังนานขึ้น

    การถ่ายไม่ออกหรือไม่ยอมขับถ่ายติดต่อกันนานหลายๆวัน รวมไปถึงพฤติกรรมการขับถ่ายไม่เป็นเวลา ไม่อยากนั่งห้องน้ำเป็นเวลานาน ๆ ก็ส่งผลร้ายแรงต่อร่างกายเป็นอย่างมาก ดังนั้น เราจึงจำเป็นอย่างมากที่ต้องใส่ใจในการขับถ่ายที่ดี ทั้งนี้ก็เพื่อเสริมสร้างสุขภาพให้ดีได้นั่นเอง

ดังนั้น ถ้าคุณไม่อยากให้เกิดปัญหาแบบนี้ขึ้นกับตัวเอง ไม่อยากป่วยเป็นโรค หรือเป็นที่รังเกียจของคนรอบข้าง ก็ควรรีบปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการขับถ่ายของตัวเองได้แล้ว โดยเริ่มจากการพยายามขับถ่ายให้ได้ทุกวัน หรือถ้ายังไม่สำเร็จก็ต้องใช้ตัวช่วยอื่นๆเข้ามาเสริม เช่น การรับประทานอาหารที่มีใยอาหารสูง การใช้สมุนไพรแก้ท้องผูก การปรับเปลี่ยนนาฬิกาชีวิต การเล่นโยคะเร่งการขับถ่าย เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม ปัญหานี้ไม่ใช่ปัญหาที่ทุกคนสามารถแก้ไขให้หายไปได้อย่างง่ายดาย เพราะถ้าคุณลองมาหมดทุกวิธี ก็ยังไม่สามารถขับถ่ายได้อย่างสม่ำเสมอ คุณก็จำเป็นต้องเข้าไปขอคำแนะนำจากแพทย์ เพราะอาจมีสาเหตุบางอย่างที่ไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม แต่นั่นอาจเป็นสัญญาณความผิดปกติของระบบขับถ่ายที่แก้ด้วยตัวเองไม่ได้ก็เป็นได้ ซึ่งต้องอาศัยการผ่าตัดหรือวิธีการอื่นๆเพื่อเปลี่ยนให้คุณกลับมาเป็นปกติดังเดิม

แหล่งที่มา www.สุขภาพน่ารู้.com